รองนายสนามมวยเวทีลุมพินี เผยข่าวดี เวทีลุมพินีเตรียมกลับมาจัดมวยอีกครั้ง หลังเจอวิกฤติโควิด-19 มาร่วม 7 เดือน โดยอย่างเร็วศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ในศึกมวยมันส์วันศุกร์ นอกจากนั้นยังมีแผนงานที่จะดึงช่อง 5 มาถ่ายทอดมวยในวันอังคารและเสาร์อีกด้วยส่วนวันสถาปนาเวทีลุมพินี ในวันที่ 8 ธันวาคมจัดยิ่งใหญ่แน่ ถ่ายทอดสดภายใต้มาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุข

     หลังจากที่ว่างเว้นไปนานร่วม 7 เดือนสำหรับเวทีลุมพินี เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้เวทีลุมพินีต้องหยุดไปนาน แต่ล่าสุดมีแผนงานที่จะกลับมาจัดการแข่งขันมวยไทยอีกครั้งในเร็วๆนี้

     จากการเปิดเผยของ “เสธ.ก้อง” รองนายสนามมวยเวทีลุมพินีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ตอนนี้เวทีลุมพินีการแต่งตั้งนายสนามและคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราได้มีการทดสอบระบบต่างๆ ทั้ง แสง สี เสียง จนเข้าที่แล้ว และได้มีการพูดคุยกับฝ่ายจัดการแข่งขันแล้ว โดยคาดว่าอย่างเร็วที่สุดน่าจะเริ่มได้ใน วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน ที่ศึกมวยมันส์วันศุกร์ จากนั้นยังมีแผนงานที่จะเอาช่อง 5 มาถ่ายทอดสดมวยในวันอังคารและเสาร์อีกด้วย โดยเฉพาะวันเสาร์ต้องเคลียร์เวลาไม่ให้ชนกับบอลไทยลีก คาดว่าอาทิตย์หน้าทุกอย่างเรียบร้อยหมดแน่

     นอกจากนั้นในวันสถาปนาเวทีของลุมพินีวันที่ 8 ธันวาคม จะมีการจัดมวยนัดยิ่งใหญ่แน่นอนเพียงแต่ขอเคลียร์กับฝ่ายจัดการแข่งขันก่อนว่าคู่มวยจะเป็นอย่างไร  เชื่อว่าน่าจะออกมาถูกใจแฟนมวยแน่และจะต้องเป็นไปตามมาตรการสาธารณสุขทุกอย่าง เนื่องจากเวทีลุมพินีถูกจับตามอบในเรื่องนี้มาก

เผยคู่มวยระหว่าง กิ่งซางเล็ก ต.หลักสอง กับ เพชรพงัน ม.รัตนบัณฑิต ได้ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างละเอียดแล้วทั้งคู่ชก จึงขอให้เชื่อมั่นในการได้เสีย ยอมรับว่าเป็นคู่แปลกที่น่าติดตามมากๆ ซึ่งถ้าหากกิ่งซางเล็กสามารถผ่านไฟต์นี้ได้มีตัวรับมืออีกเพียบ

รายการศึก ส.ธนพล โดยโปรโมเตอร์เงาะ บางกะปิ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้จัดวางคู่มวยไว้น่าสนใจทั้งรายการ โดยเฉพาะคู่เอกนั้นจะเป็นการพบกันระหว่าง กิ่งซางเล็ก ต.หลักสอง กับ เพชรพะงัน ม.รัตนบัณฑิต ซึ่งคู่นี้ไม่เคยปะทะกันมาก่อน แถมเป็นมวยต่างศึกต่างสายอีกต่างหากเชื่อว่าต้องฟัดกันสนุกได้เสียแน่นอน

จากการเปิดเผยของ สิทธิ์ ปากพนัง มือโปรกลุ่มพลังใหม่ ได่กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า คู่ กิ่งซางเล็กกับเพชรพะงัน นั้นผ่านการกลั่นกรองมาอย่างละเอียด ดังนั้นขอให้แฟนมวยจงเชื่อมั่น เรื่องหลุดไม่ได้เสียไม่มีเกิดขึ้นแน่นอน

“เราพิจารณามาแล้วทั้งคู่ชกพิกัดชกซึ่งทุกอย่างเหมาะสมกันมาก ขึ้นมายังไม่รู้เลยว่าใครเป็นต่อ ไม่รู้ใครถอยหลังให้กัน ซึ่งเป็นคู่แปลกที่น่าวัดดวงมากๆ รักใครชอบใครก็เชียร์กันไปได้เลย”

สำหรับคู่มวยสมทบรายการ แปดแสนเล็ก ราชานนท์ พบ ไตรเทพ ป.เตละกุล, ทหารเอก นายกเอท่าศาลา พบ ฉัตรชัย อริษากรุ๊ป, พรนารายณ์ ส.ภูมิภัทร พบ แสนศรี สุริยันโยธิน, เพชรชวนชม ช.ห้าพยัคฆ์ พบ น้องบี บีบอยบ๊อกซิ่งยิม

แฟนคลับสบายใจได้ “ดวงสมพงษ์-เพชรมณี-คมเพชร จิตรเมืองนนท์” 3 นักชก เกรด A ของค่ายเก็บตัวฟิตซ้อมทำร่างกายอยู่ 3 เดือนกว่า ช่วงโควิด-19 ระบาดไม่ได้ออกไปไหน ซ้อมมวยอย่างเดียว โดย “ซ้อเอ๋” สุนทรี โลหะพืช ผู้จัดการค่ายมั่นใจมากว่าจะทำผลงานออกมาดีเหมือน สะแกงาม-เพชรสมจิตร และซุปเปอร์เล็ก 3 วินควง โดยขึ้นโปรแกรมพร้อมกันทั้งหมดรายการศึกมวยดีวิถีไทย วิถีใหม่ New Normal ทางช่อง GMM25 วันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค.62 เวทีมวยบลูอารีน่า จ.สมุทรปราการ

 ยอดหญิงผู้จัดการค่ายจิตรเมืองนนท์ "ซ้อเอ๋" สุนทรี โลหะพืช ไฟต์เดือดออกทีวีพร้อมกับ 3 นักชกดัง "ดวงสมพงษ์" เปิดศึกรีเทิร์นแม็กซ์หน 3 ผลัดแพ้-ชนะกับ เอ็กซ์ตร้า ศ.ศิริลักษณ์มวยไทย พิกัด 135 ป., "เพชรมณี" สั่งวัดชั้นเจอ เฮอคิวลิส เพชรสี่หมื่น พิกัด 133 ป. และ "คมเพชร" ดาวโรจน์ดวงใหม่กำลังจะก้าวขึ้นมาด้วยผลงานต่อสไตล์รถถัง รุ่นพี่ เอนเตอร์เท็นแฟนมวย จะวัดฟอร์มพบกับ ยอดสุริยา ต.โยธา หรือ ส.เชาวลิต ดีกรีแชมป์มวยรอบหมอเส็งคนแรก สู้ศึกพิกัด 128 ป.

 โดย 3 นักชกดังกล่าวแม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่ได้การฟิตซ้อมและได้ร่างกายเก็บตัวกว่า 3 เดือนเต็ม น่าจะทำผลงานออกมาดี เผลอๆ 3 วินเหมือน "สะแกงาม-เพชรสมจิตร-ซุปเปอร์เล็ก" แฟนคลับค่ายจิตรเมืองนนท์ ตามลุ้นตามเชียร์การันตีความผิดหวังเรื่องใจสู้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

 "เอ๋ มั่นใจว่าจะทำผลงานออกมาดีทั้ง ดวงสมพงษ์ ที่นัดแรกแพ้พลิก 8/1 แล้วมาแก้มือชนะขาด 4-5 ไฟต์ที่ 3 ดูร่างกายสุดปึ้กจริงๆ และ เพชรมณี ชื่อเสียงมวยอาจจะเป็นรองเยอะ แต่ได้เวตน้ำหนักเต็ม ชก 133 ป. ดูว่าออกอาวุธรุนแรงพลิกเกมได้ ส่วนคมเพชร ดาวรุ่งรุ่นใหม่ของค่าย ขึ้นทาบชั้นยอดสุริยา ทีทีมงานทุกคนท้วงติงว่ายังไม่ถึง แต่เอ๋มองว่าระยะนี้เจอได้แล้ว ไฟต์ทำศึกเกมเดือดทั้งดวงสมพงษ์, เพชรมณี และ คมเพชร จิตรเมืองนนท์ จะชกรายการมวยดีวิถีไทย วิถีใหม่ ทางช่อง GMM25 เวลา 12.00 น. แฟนคลับเอ๋และจิตรเมืองนนท์อย่าลืมมาเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ"

ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์เป็นประธานจัดประชุมหารือมาตรการแนวทางการชกมวยรูปแบบใหม่ New Normal ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมี นพ.มารุต จิรเศรษศิริ และ นายอนุพงษ์ สุจริยากุล ร่วมให้แนวทาง โดยมี สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย, นายสนามมวย, โปรโมเตอร์, หัวหน้าค่ายมวย, นักมวย, ผู้ฝึกสอน, ผู้ตัดสิน และแฟนมวยร่วมประชุมและวางมาตรการในการจัดมวยและป้องกันโรค พร้อมกันนี้ยังได้เปิดโอกาสให้คนวงการมวยร่วมประชุมผ่าน appication Zoom อีกด้วย ซึ่งได้ข้อสรุปหลักๆ การจัดมวยชกแบบปิดไม่มีคนดู ทั้งระบบไล่ตั้งแต่นักมวย ค่ายมวย ผู้ตัดสิน และสนามมวย เบื้องต้นทุกรายการจะจำกัดจำนวนคน ไม่เกิน 50 คนภายในสนามแข่งขัน ส่วนนักมวยที่ยังไม่ถึงเวลาชกและผู้เกี่ยวข้องให้รอในห้องพัก หลังจบการชกแต่ละคู่จะต้องทำความสะอาดเวที นักมวยต้องกักตัวก่อนชก 14 วัน หัวหน้าค่ายและเทรนเนอร์ต้องสวมเฟซชิลด์และถุงมือเวลาสอนที่มุมนอกจากนี้ยังถกถึงปัญหาปลายทาง โดยเฉพาะการชมมวยตู้ เช่นมวยตู้ ไม่เกิน 10 คน ต้องลงทะเบียน โดยตัวแทนโปรโมเตอร์จัดแข่งขันและคนวงการมวย พอใจกับมาตรการข้อปฏิบัติ และพร้อมจะปฏิบัติตาม ตามแนวทุกอย่างหากมีการปลดล็อกให้จัดมวยได้ ขณะที่เงินเยียวยารองผู้ว่าการ กกท. ชี้แจงทุกฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการ

บอร์ดกีฬาอาชีพเเละมวย ไฟเขียวงบเยียวยากลุ่ม 13 กีฬาอาชีพเเละวงการมวย จากผลกระทบโควิด รวม 261 ล้านบาท โดยกลุ่มกีฬาอาชีพ ช่วยเหลือ 5 กลุ่ม ทั้ง นักกีฬาอาชีพ, บุคลากรกีฬาอาชีพ, สมาคมกีฬาอาชีพ, สโมสรกีฬาอาชีพ, และ ผู้จัดการแข่งขัน ฟากวงการมวย จะจ่ายครอบคลุมคน 7 กลุ่ม คาดทั้ง 2 ส่วน จะเริ่มเบิกจ่ายเยียวยาตั้งเเต่เดือน มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬาอาชีพ ครั้งที่ 3/2563 โดยมี นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ และกรรมการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ที่ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา
สาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือการพิจารณางบประมาณในการช่วยเหลือกลุ่มกีฬาอาชีพ โดยหลังจากคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มกีฬาอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เรียกประชุมรับฟังข้อมูลผลกระทบ ความเดือดร้อน เมื่อวันที่ 22-24 เม.ย.ที่ผ่านมา