รุ่น105

ศุภศักดิ์ ยืนยันที่ผ่านมาตนเองได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการจัดอันดับประเทศไทย ที่มี “เตี้ยโฟล์ค” นิคม รัตนวิชช์ เป็นประธานคณะกรรมการจัดอันดับเรียบร้อยแล้ว ขออนุมัติชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น 105 ปอนด์ ระหว่าง บัวขาวน้อย ศิษย์นายกไก่แปดริ้ว กับ ขุนตะวัน หนุ่มยีนส์เอสคลับ ในรายการ ดร.น็อตมวยไทย ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ที่ลุมพินี ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดอันดับก็ได้อนุมัติตามที่ขอเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

“ดร.น็อต” ศุภศักดิ์ เงาประเสริฐวงศ์ โปรโมเตอร์ ศึกดร.น็อตมวยไทย ที่มีโปรแกรมจัดในวันที่ 25 ม.ค. นี้ที่ลุมพินี รามอินทรา ได้กล่าวเปิดใจหลังจากที่ นำ บัวขาวน้อย ศิษย์นายกไก่แปดริ้ว (ศิษย์ควรตั้ง) ขึ้นป้ายให้ชิงแชมป์รุ่น 105 ปอนด์ประเทศไทยกับ ขุนตะวัน หนุ่มยีนส์เอสคลับ ร่วมรายการว่าที่ผ่านมาตนเองได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการจัดอันดับประเทศไทย ที่มี “เตี้ยโฟล์ค” นิคม รัตนวิชช์ เป็นประธานคณะกรรมการจัดอันดับเรียบร้อยแล้ว ขออนุมัติชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น 105 ปอนด์ ระหว่าง บัวขาวน้อย ศิษย์นายกไก่แปดริ้ว กับ ขุนตะวัน หนุ่มยีนส์เอสคลับ ในรายการ ดร.น็อตมวยไทย ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ ที่ลุมพินี ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดอันดับก็ได้อนุมัติตามที่ขอเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นเกียรติประวัติกับการจัดมวยกับการทำงานของตนเองอย่างมาก เนื่องจากว่าเข็มขัดแชมป์ประเทศไทยเป็นสถาบันที่ใหญ่ที่ผ่านมาใครได้เป็นแชมป์ สถาบันนี้และจัดชิงแชมป์สถาบันดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของคนวงการมวยทุกคน

ไปญี่ปุ่น

เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักชกวัย 29 ปี จากแดนสะตอ สุดปลื้มที่ได้คิวเตรียมโกอินเตอร์แดนปลาดิบเป็นครั้งแรกของชีวิต ในเดือนมีนาคม เพื่อไปทำศึกมวยรอบพิเศษ 61 กก. ในรายการศึก RISE ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตนได้เริ่มเข้าแคมป์ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง จะไม่ประมาทเด็ดขาด เพื่อหวังโชว์ฟอร์มเก่งคว้าแชมป์โกยเงินเยนมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกสาวน้องฮันนี่วัย 7 เดือนได้แน่นอน พร้อมกับครั้งนี้เป็นการเดินทางไปทำศึกต่างแดนครั้งที่ 4 หลังจากก่อนนี้ 3 ครั้งไปชกที่แดนมังกรอย่างเดียว ซึ่งไฟต์นี้บังสรรจะได้ค่าตัวสูงถึงครึ่งล้านบาทเลยทีเดียว
ถือว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ของชาวไทยในเวลานี้สำหรับ “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักชกวัย 29 ปี จากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีคิวเตรียมโกอินเตอร์แดนปลาดิบเป็นครั้งแรกของชีวิต ในเดือนมีนาคม ด้วยค่าตัว 5 แสนบาท เพื่อไปทำศึกมวยรอบพิเศษ 61 กก. ในรายการศึก RISE ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด ทางเจ้าตัวได้เปิดเผยกับทีมงานมวยสยามว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณลูกพี่ใหญ่ เสี่ยสมหมาย บางกะปิ พร้อมทีมงานค่ายส.สมหมายทุกคน ที่ให้โอกาสตนได้ไปชกต่างแดนเป็นครั้งที่ 4 โดยประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นครั้งแรก ทำให้ตอนนี้ตนได้เริ่มเข้าแคมป์ฝึกซ้อมพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ประมาทเด็ดขาด เนื่องจากรู้ว่านักชกต่างชาติชั่วโมงนี้ไม่ธรรมดา แต่ตนก็หวังโชว์ฟอร์มเก่ง คว้าแชมป์โกยเงินเยนมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกสาวน้องฮันนี่วัย 7 เดือนได้ชัวร์
แชมป์รุ่นไลต์เวตวิกราชดำเนิน เปิดใจกับมวยสยามว่า ชั่วโมงนี้จะให้ชกกับใครตนก็ไม่หวั่น ขอให้มีโปรแกรมต่อเนื่องก็แล้วกัน ลูกกำลังโต กำลังกินกำลังนอน อยากชกทุกเดือนด้วยซ้ำซึ่งการไปชกที่ญี่ปุ่นหนนี้ ถือว่าได้เงินก้อนโตมากที่สุดตั้งแต่ชกมวยมาเลยก็ว่าได้ จะหอบเงินมาให้เมียเก็บ “สำหรับตอนนี้ผมมีลูกสาววัย 7 เดือนทำให้ต้องมีภาระ มีค่าใช้จ่ายที่ดูแลครอบครัว ก็ต้องขอบคุณลูกพี่ใหญ่และผู้สนับสนุนทุกคนที่ให้โอกาสตนไปทำศึกที่แดนปลาดิบ ถือว่าเป็นครั้งแรก แต่ผมสัญญาจะไม่ประมาทเด็ดขาด เพื่อหวังคว้าชัยกลับมาเมืองไทย และเป็นของขวัญให้กับลูกสาวในการชกประเดิมปีหมูแน่นอน”