นักมวยของค่ายชูวัฒนะทุกคน ที่มีรายการช่วงนี้ห้ามเที่ยวสงกรานต์จะเล่นกันก็ได้พอเป็นพิธีอยู่ที่ค่ายเท่านั้น พร้อมเผย เสาเอก ซ้อสั่งลุย ขยันซ้อมตั้งใจมาก เพื่อขึ้นล้างแค้น เพชรบ้านแขก ส.สมหมาย ศึกยักษ์วันพฤหัสบดีที่ 25 เม.ย. ที่ราชดำเนิน หลังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาชนะสองครั้งติด เชื่อว่าเสาเอกจะเอาชนะคืนได้บ้างอย่างสนุกแน่
คู่แฝดเมืองนนท์ เสาเอก – เสาโท ซ้อสั่งลุย ช่วงนี้กำลังขาขึ้น โชว์ฟอร์มคว้าชัยต่อเนื่อง ทำให้ เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์, เจ๊วราพร ภาคโพธิ์, โดม หาดใหญ่ มีความสุขเริงร่ากันทั่วหน้า โดยนักมวยอยู่ในการดูแลของ “เฮียม้อ” ชูเจริญ รวีอร่ามวงศ์ เจ้าสำนักชูวัฒนะ ข่าวคืบหน้าล่าสุด เฮียม้อ กระบี่ผมแดง ส่งภาพการฟิตซ้อมทางไลน์มาให้ทีมงาน “มวยสยาม” บอกให้ฟังว่า เสาเอกขยันตั้งใจซ้อมอย่างต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว ช่วงสงกรานต์ก็ไม่ได้หยุดพักไปเที่ยวแต่อย่างใด ตนเพียงแค่ปล่อยให้เล่นกันเป็นพิธี สนุกสนานอยู่แถวค่ายมวยเท่านั้น เพราะกลัวว่าถ้าไปเล่นน้ำกันเพลินเดี๋ยวจะเจ็บป่วยเป็นไข้ได้
สำหรับการเจอกับ เพชรบ้านแขก ส.สมหมาย ในวันพฤหัสบดีที่ 25 เม.ย.นี้ เปิดรายการ “ศึกส.สมหมายเงินล้าน” ที่เวทีราชดำเนิน เสาเอก ซ้อสั่งลุย เคยพ่ายเพชรบ้านแขกมาแล้ว 1 ครั้ง แต่หนนี้ “เฮียม้อ” มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าแฝดพี่จะล้างตาได้สำเร็จ หลังกู้ชื่อคว้าชัยสองไฟต์ติดเรียกฟอร์มเก่งคืนมาได้แล้ว
“เสาเอกซ้อมดีมาก ตั้งใจนะ เฮียเห็นแล้วก็ชื่นใจทั้งเสาเอกกับเสาโท ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กำลังมีความมั่นใจ เสาเอกกับเพชรบ้านแขก คู่นี้สู้กันสนุกถึงเงินแน่ ก็อยู่ที่การแก้เกมพลิกแผนบนเวที ส่วนเรื่องฟิตซ้อมทั้งค่ายเฮียและค่ายเสี่ยสมหมาย เราก็ทำมวยไปสู้เต็มที่เหมือนกัน ไม่มีเป็นรองกันหรอก วันพฤหัสบดีที่ 25 นี้ ฝากเชียร์เสาเอกลูกศิษย์ของเชฟบุญธรรมด้วยนะครับ และฝากไปถึง คุณโดม หาดใหญ่ มาช่วยเชียร์ด้วยเหมือนเดิมนะครับ” เฮียม้อ ให้ข่าว

เดชฤทธิ์  การันตีการฟิตซ้อมของตนว่าไฟต์นี้ได้ทำการซ้อมมาต่อเนื่อง จนสภาพร่างกายไม่มีสะดุด น้ำหนักก็ไม่มีปัญหา มั่นใจในความหนักหน่วงรุนแรงที่เหนือกว่าต้องดักสาดแข้งต่อยหมัดเอาชนะค้างคาวแดงได้อย่างประทับใจแฟนมวยและแจ้งเกิดได้นั่นเอง

หลังจากด้าน เดชฤทธิ์ ศ.เพ็ญประภา มีโปรแกรมขึ้นชกกับ ค้างคาวแดง ฮัวโรงน้ำแข็ง พิกัด 123 ปอนด์ ในการชกเป็นคู่เอกนำรายการศึกเกียรติเพชรซูเปอร์ไฟต์ วันเสาร์ที่ 16 มีนาคมนี้ ณ เวทีมวยลุมพินี ช่องเนชั่น 22 เวลา 18.20 น. เป็นต้นไป ล่าสุดด้านเดชฤทธิ์ได้เผยว่า ไฟต์นี้ตนทำการฟิตซ้อมมาต่อเนื่อง ทำให้ทุกอย่างดีหมด ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย กำลังใจที่เต็มเปี่ยมโดยเชื่อในความหนักหน่วงรุนแรง ที่เหนือกว่าต้องดักสาดแข้งต่อยหมัด ปล้ำเสียบเข่าบดเบียดคว้าชัยแจ้งเกิดลงมาฝากแฟนคลับและทีมงานได้แน่นอน

“ขอฝากแฟนคลับไปติดตามผลงานที่วิกลุมพินีได้ ซึ่งตนจะชกเป็นคู่เอกนำรายการ ถึงแม้ความสดอาจจะดูเป็นรอง แต่ตนได้มุ่งมั่นตั้งใจฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าต้องมีทีเด็ดไปคว้าชัยแจ้งเกิดเพื่อหวังปีนี้ต้องดังทะลุกว่าเดิมได้ชัวร์”

เจ๊กิ๊ก ทุ่งสง ฝากแฟนคลับไปพิสูจน์ผลงานของศึกเพชรวิทยา นัดชุมนุมมวยพันธุ์โหด ในวันพุธนี้ได้ ถึงแม้คู่มวยจะมีการสลับปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ความมันส์ ความได้เสียยังเหมือนเดิม โดยเฉพาะคู่กำชับ ส.พงษ์อมร วัด ศรทอง ต.หลักสอง ที่ต่างฝ่ายต่างหนักทุกลูก รับรองใครพลาดประมาทมีโอกาสลงเปลได้ทุกเวลา
ความเคลื่อนไหว ศึกเพชรวิทยา นัดวันพุธที่ 20 ก.พ.2562 ณ วิกแอร์ ราชดำเนินจัดโดย โปรโมเตอร์วิทยา เพชรสี่หมื่น และสิบโท ภูวนาท เพชรสี่หมื่น วางคู่เอก พรเสน่ห์ ส.ภูมิภัทร เจอ ลูกขวัญ ส.จ.เหว่าแปดริ้ว พิกัด 119 ปอนด์ ตามด้วย เพชรเอก สิงห์มณี เจอ ยอดพนม ป.เพชรไข่แก้ว พิกัด 109 ปอนด์ คู่ค้ำ หยกเมืองไทย เพชรสี่หมื่น พบ เพชรกัมปนาท ศิษย์จ่าชาติ พิกัด 119-120 ปอนด์ คู่ 4 กำชัย ส.พงษ์อมร วัด ศรทอง ต.หลักสอง พิกัด 126 ปอนด์ คู่ 3 โจ๊กเกอร์ เพชรสี่หมื่น อัด วันชนะ ส.พงษ์อมร พิกัด 110-108 ปอนด์, วันพิชิต ศิษย์อนันตเล็ก พบ เพชรกฤษณะ ริฟลอร์เนียเซาว์น่า พิกัด 113 ปอนด์ เปิดหัว เสือกิต ศ.มาลัยทอง ดวล ซุปเปอร์บอล ศิษย์ยอดธง พิกัด 106 ปอนด์ หลังคู่เอก เดชณรงค์ ศิษย์เจ๊ภา สอย ตี ก้องนภาเล็ก ศิษย์ก้องนภา พิกัด 102 ปอนด์ ปิดท้าย เพชรนิพนธ์ ศักดิ์ชรบ. เจอ จักรนรินทร์ ป.พรแสนชัย พิกัด 100 ปอนด์
ขอฝากแฟนคลับมาติดตามผลงานของ วิทยา เพชรสี่หมื่น และลูกชาย สิบโทภูวนาท ในวันพุธนี้ได้ คู่มวยมาถึงตอนนี้พร้อมรบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแน่นอน โดยเฉพาะคู่ของ กำชัย ส.พงษ์อมร เจอ ศรทอง ต.หลักสอง ถือว่าถูกคู่ได้เสีย ต่างฝ่ายต่างมีทีเด็ดไปสู้ทำให้แฟนห้ามกระพริบตาเด็ดขาด เชื่อว่าต้องแลกกันดุเดือดได้เสียชนิดใครพลาดมีโอกาสไม่ครบยกได้เช่นกันค่ะ” เจ๊กิ๊ก กล่าว

ศุภศักดิ์ ยืนยันที่ผ่านมาตนเองได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการจัดอันดับประเทศไทย ที่มี “เตี้ยโฟล์ค” นิคม รัตนวิชช์ เป็นประธานคณะกรรมการจัดอันดับเรียบร้อยแล้ว ขออนุมัติชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น 105 ปอนด์ ระหว่าง บัวขาวน้อย ศิษย์นายกไก่แปดริ้ว กับ ขุนตะวัน หนุ่มยีนส์เอสคลับ ในรายการ ดร.น็อตมวยไทย ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ที่ลุมพินี ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดอันดับก็ได้อนุมัติตามที่ขอเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

“ดร.น็อต” ศุภศักดิ์ เงาประเสริฐวงศ์ โปรโมเตอร์ ศึกดร.น็อตมวยไทย ที่มีโปรแกรมจัดในวันที่ 25 ม.ค. นี้ที่ลุมพินี รามอินทรา ได้กล่าวเปิดใจหลังจากที่ นำ บัวขาวน้อย ศิษย์นายกไก่แปดริ้ว (ศิษย์ควรตั้ง) ขึ้นป้ายให้ชิงแชมป์รุ่น 105 ปอนด์ประเทศไทยกับ ขุนตะวัน หนุ่มยีนส์เอสคลับ ร่วมรายการว่าที่ผ่านมาตนเองได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการจัดอันดับประเทศไทย ที่มี “เตี้ยโฟล์ค” นิคม รัตนวิชช์ เป็นประธานคณะกรรมการจัดอันดับเรียบร้อยแล้ว ขออนุมัติชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น 105 ปอนด์ ระหว่าง บัวขาวน้อย ศิษย์นายกไก่แปดริ้ว กับ ขุนตะวัน หนุ่มยีนส์เอสคลับ ในรายการ ดร.น็อตมวยไทย ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ ที่ลุมพินี ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดอันดับก็ได้อนุมัติตามที่ขอเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นเกียรติประวัติกับการจัดมวยกับการทำงานของตนเองอย่างมาก เนื่องจากว่าเข็มขัดแชมป์ประเทศไทยเป็นสถาบันที่ใหญ่ที่ผ่านมาใครได้เป็นแชมป์ สถาบันนี้และจัดชิงแชมป์สถาบันดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของคนวงการมวยทุกคน

เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักชกวัย 29 ปี จากแดนสะตอ สุดปลื้มที่ได้คิวเตรียมโกอินเตอร์แดนปลาดิบเป็นครั้งแรกของชีวิต ในเดือนมีนาคม เพื่อไปทำศึกมวยรอบพิเศษ 61 กก. ในรายการศึก RISE ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตนได้เริ่มเข้าแคมป์ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง จะไม่ประมาทเด็ดขาด เพื่อหวังโชว์ฟอร์มเก่งคว้าแชมป์โกยเงินเยนมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกสาวน้องฮันนี่วัย 7 เดือนได้แน่นอน พร้อมกับครั้งนี้เป็นการเดินทางไปทำศึกต่างแดนครั้งที่ 4 หลังจากก่อนนี้ 3 ครั้งไปชกที่แดนมังกรอย่างเดียว ซึ่งไฟต์นี้บังสรรจะได้ค่าตัวสูงถึงครึ่งล้านบาทเลยทีเดียว
ถือว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ของชาวไทยในเวลานี้สำหรับ “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักชกวัย 29 ปี จากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีคิวเตรียมโกอินเตอร์แดนปลาดิบเป็นครั้งแรกของชีวิต ในเดือนมีนาคม ด้วยค่าตัว 5 แสนบาท เพื่อไปทำศึกมวยรอบพิเศษ 61 กก. ในรายการศึก RISE ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด ทางเจ้าตัวได้เปิดเผยกับทีมงานมวยสยามว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณลูกพี่ใหญ่ เสี่ยสมหมาย บางกะปิ พร้อมทีมงานค่ายส.สมหมายทุกคน ที่ให้โอกาสตนได้ไปชกต่างแดนเป็นครั้งที่ 4 โดยประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นครั้งแรก ทำให้ตอนนี้ตนได้เริ่มเข้าแคมป์ฝึกซ้อมพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ประมาทเด็ดขาด เนื่องจากรู้ว่านักชกต่างชาติชั่วโมงนี้ไม่ธรรมดา แต่ตนก็หวังโชว์ฟอร์มเก่ง คว้าแชมป์โกยเงินเยนมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกสาวน้องฮันนี่วัย 7 เดือนได้ชัวร์
แชมป์รุ่นไลต์เวตวิกราชดำเนิน เปิดใจกับมวยสยามว่า ชั่วโมงนี้จะให้ชกกับใครตนก็ไม่หวั่น ขอให้มีโปรแกรมต่อเนื่องก็แล้วกัน ลูกกำลังโต กำลังกินกำลังนอน อยากชกทุกเดือนด้วยซ้ำซึ่งการไปชกที่ญี่ปุ่นหนนี้ ถือว่าได้เงินก้อนโตมากที่สุดตั้งแต่ชกมวยมาเลยก็ว่าได้ จะหอบเงินมาให้เมียเก็บ “สำหรับตอนนี้ผมมีลูกสาววัย 7 เดือนทำให้ต้องมีภาระ มีค่าใช้จ่ายที่ดูแลครอบครัว ก็ต้องขอบคุณลูกพี่ใหญ่และผู้สนับสนุนทุกคนที่ให้โอกาสตนไปทำศึกที่แดนปลาดิบ ถือว่าเป็นครั้งแรก แต่ผมสัญญาจะไม่ประมาทเด็ดขาด เพื่อหวังคว้าชัยกลับมาเมืองไทย และเป็นของขวัญให้กับลูกสาวในการชกประเดิมปีหมูแน่นอน”